นายกฯ อนุทิน แถลงข่าว DSI-สตช.-ปปช.-ปปท.ผนึกกำลังกรมการปกครองเปิดยุทธการ“ตัดหมอกเวียงแหง–ล้างบางจนท.รัฐภัยความมั่นคงสวมสิทธิทำบัตรประชาชนให้คนต่างด้าว”

0
8

เมื้่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานและร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินคดีกับขบวนการนำคนต่างด้าวมาสวมสิทธิทำบัตรประชาชนในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการแจ้งเบาะแสการทุจริต และเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการขอสัญชาติและสถานะบุคคลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งมอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ทำการสืบสวนเป็นสำนวนสืบสวนที่ 132/2568 ทางการสืบสวนพบมูลความผิดอาญา จึงประสานข้อมูลกับบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในการขอหมายจับและหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในความผิดฐานในความผิดฐานร่วมกันกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสารเท็จและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต รวมทั้งความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อมาระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2568 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรีเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม นายสมชาย ติไชย ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 และเจ้าหน้าที่กองกิจการอำนวยความยุติธรรมและศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บูรณาการตามมาตรา 22/1 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษฯ ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมการปกครอง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมตามหมายจับและหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในพื้นที่เชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรสาคร เป็นหมายจับบุคคลประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย นายอำเภอ 1 ราย ปลัดอำเภอ 2 ราย ลูกจ้างอำเภอ 4 ราย และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 3 ราย พลเรือน จำนวน 3 ราย ได้แก่ พยานรับรองเท็จ 1 ราย และบุคคลผู้ทุจริตรายการ เป็นบุคคลสัญชาติจีนที่มาสวมตัวทำบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรหัวเลข 0) จำนวน 1 ราย และบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นนายหน้า จำนวน 1 ราย รวมผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ จำนวน 13 ราย ทั้งนี้ มีการตรวจค้นพื้นที่ จำนวน 3 แห่ง และมีการตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับ การกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร สมุดจดบันทึก หลักฐานการโอนเงิน และเอกสารหลักฐานอื่นที่แสดงความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตทางทะเบียนราษฎร โดยนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และพลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย โดยพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการตามนโยบายล้างบาง “กลุ่มจีนเทา” และคนต่างด้าวที่เป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้ช่องทางการสวมตัวเป็นบุคคลสัญชาติไทย เพื่อมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดหรือหลบซ่อนตัว โดยได้สั่งการให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม และกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค โดยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 ร่วมบูรณาการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และบูรณาการตรวจค้นจับกุม เพื่อปราบปรามและดำเนินคดีกับขบวนการทุจริตเพื่อให้คนต่างด้าวมีสิทธิอาศัยถาวรในประเทศไทย ภายใต้ยุทธการ “ตัดหมอกเวียงแหง” ในครั้งนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป