จับเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์โรฮีนจาข้ามชาติ

0
376

กรณีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสังกัด ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเป็นคนไทยจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายจารุบุตร (ขอสงวนนามสกุล) อาย 57 ปี และน.ส.มธุรส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” และยังได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวอีกจำนวน 4 คน โดยกล่าวหาว่า “หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าทีตำรวจได้มีการสืบสวนขยายผลรวมทั้งได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าวมีการกระทำผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพไรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร.ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวน พร้อมพวกทำการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในกรณีดังกล่าวจนสามารถออกหมายจับเครือข่ายผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาต่างชาติ จำนวน 2 ราย และผู้ต้องหาชาวไทยจำนวน 2 ราย

ต่อมาวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 17.00 น. ที่สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชุดปฏิบัติการสืบสวน ศพดส.ตร.ร่วมกับ ศรภ. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ได้ถูกออกหมายจับจากกรณีดังกล่าว ได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นางไม ซาจัน อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที 113/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ทำหน้าที่ดูแลแรงงานชาวโรฮีนจาระหว่างพักอยู่ในที่พักในเขตพื้นที่ อ.บางบัวทอง 2.นายทุนไหน่ อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา (สามีของนางไม) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที 114/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ทำหน้าที่ดูแลแรงงานชาวโรฮินจาในระหว่างพักอยู่ในที่พักในเขต อ.บางบัวทอง 3.นายชัยนิวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 116/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ทำหน้าที่สั่งการและว่าจ้างให้มีการจัดส่งแรงงานชาวโรฮีนจาไปส่งยังที่หมาย 4.นายทองมนต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินที่ 115/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ทำหน้าที่นำพาแรงงานชาวโรฮีนจา จากชายแดนเมียนมามายังที่พักในเขต อ.บางบัวทอง

ฐานความผิด “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, เป็นธุระจัดหาพามาจากหรือส่งไปยังที่ใด โดยหน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งบุคคลใดโดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะ อ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นโดยมิชอบโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบต่อบุคลใด และเด็ก อันเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยอื่นใดที่คล้ายคลึงอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,ร่วมกันพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกรัทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรและรู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นการจับกุม” สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาลำดับที 1, 2 และ 3 ได้ในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และจับกุมตัวผู้ต้องหาลำดับที่ 4 ได้ในพื้นที่ อ.วังน้อย จว.อยุธยา จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวได้มีการเฝ้าติดตามมาระยะนึงแล้วก่อนจะทำการเข้าจับกุมในวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขบวนการนี้จะทำการล่อลวงชาวโรฮีนจา ซึ่งคาดว่าจะส่งเหยื่อไปยังประเทศที่สามหรือส่งนำไปใช้แรงงาน ซึ่งต่อจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลในการทำการจับกุม ซึ่งในขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการเก็บหลักฐานเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าขบวนการดังกล่าวจะต้องมีคนไทยร่วมมือด้วยอย่างแน่นอน และจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถควบคุมดำเนินการสอบสวนต่อไปได้

ทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอเตือนไปยังคนไทยและเจ้าหน้าที่แนวตะเข็บชายแดนที่ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ด้วยว่าหากมีการขยายผลไปเจ้าหน้าที่คนใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้จะถูกดำเนินการตามกฏหมายโดยเด็ดขาด เพราะถิอว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นคนโดยการค้ามนุษย์ด้วยกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ด้วยซึ่งจะได้เร่งสืบสวนขยายผลต่อไป