นางติ่ง อายุ 58 ปีพร้อมครอบครัวชาวบ้านในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ เพื่อขอให้ช่วยลูกชายวัย 34 ปี อดีตทหารเกณฑ์ ถูกเพื่อนชักชวนและนำเงินมาให้ปล่อยกู้ แต่ทำยอดไม่ได้ตามเป้าหมายกำหนด จึงโดนอุ้มไปกักขัง โดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งแจ้งความคดีอุ้มกักขังหน่วงเหนี่ยวผ่านมา 6 เดือนยังไม่มีความคืบหน้า
โดยขณะที่นางติ่งกำลังให้ข้อมูลนั้นได้มีโทรศัพท์เข้ามาหานางติ่งโดยปลายสายคือลูกชายนางสาวติ่งชื่อเป้าได้โทรเข้ามาเร่งรัดให้นางติ่งหาเงินไปใช้หนี้เงินกู้จำนวนหลายครั้งโดยเสียงของนายเป้าซึ่งมีน้ำเสียงพูดคล้ายคนอิดโรย จากนั้นนางติ่งได้นำไปชี้จุดบริเวณที่ลูกชายนายเป้า ถูกอุ้มหายไปบริเวณคลอง 14 -15 อ.องครักษ์ จ.นครนายก
นางติ่ง เล่าว่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายตนได้นำเงินกู้จากเพื่อนที่รู้จักกันตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ เพื่อต่อทุนโดยเพื่อนของลูกชายอ้างว่า เป็น บอดี้การ์ด ของนักการเมืองจังหวัดนครนายก โดยเขาติดต่อคุยกันเป็นปกติ โดยบอกว่าจะนำเงินทุนเพื่อให้ไปปล่อยต่อ โดยครั้งแรกให้มา 100,000 บาท ครั้งที่ 2 ประมาณ 300,000 บาท ครั้งที่ 3,500,000 บาท และยอดอื่นๆ รวมประมาณ 2,000,000 ตนและลูกชายจึงทำเป็นธุรกิจปล่อยกู้ โดยการนำเงินที่เพื่อนของลูกชายนำมาให้เอาไปปล่อยกู้ให้กับชาวบ้านและคนละแวกนั้น โดยที่ต้องนำดอกและต้นที่เก็บมาจากชาวบ้านที่ปล่อยกู้มาให้กับลูกชายของเพื่อนตลอด ซึ่งเมื่อหนึ่งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาตนและลูกชายไม่สามารถเก็บดอก 2 ล้านบาทและต้น 2,500,000 บาท ตามเป้าไม่ได้เขาเลยให้คนมาอุ้มลูกชายไปโดยการมัดมือมัดเท้าใช้ด้ามปืนตีที่ท้ายทอยอย่างแรงและเอาไปกักขังในห้องน้ำและมีการทุบตีลูกชาย บังคับให้ติดต่อ มาที่ตนเพื่อให้เอาเงินมาให้แต่ต้นก็หาเงินมาไม่ได้ ลูกต้องเจ็บและทรมานแสนสาหัสถูกตีด้วยเหล็กเป็นเวลาตั้ง 6 เดือนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนไม่กล้าเปิดหน้าไม่กล้าสู้เพราะกลัวจะโดนอุ้มไปทำร้ายเหมือนลูกชาย จนตัดสินใจ มาขอความช่วยเหลือ
นางติ่งกล่าวต่อว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือนลูกชายถูกซ้อมทุกวันจนตนเองเป็นห่วงและทำใจไม่ได้และเป็นห่วงลูกมาก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาลูกชายตนถูกบังคับให้โทรมาให้ตนหาเงินไปคืนให้ได้ จำนวน 50,000 บาทภายใน 3 วันซึ่งก็ไม่รู้จะหาเงินมาจากไหนเนื่องจากลูกชายเคยบ่นให้ฟังว่ากลุ่มคนเหล่านี้เคยยิงคนเสียชีวิตต่อหน้าลูกชายตนมาแล้ว จึงฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามหาลูกชายให้ได้โดยเร็วเพราะหวั่นจะเกิดอันตรายถึงชีวิตกับลูกชายตนเอง หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง และ สภ.องครักษ์ ต่อไป
ด้านจ่าคิงส์ สะพานใหม่ กล่าวว่าวันนี้ได้นำครอบครัวนางติ่งไปร้องขอความช่วยเหลือจากกองบังคับการปราบปรามแล้วเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาทางช่วยเหลือลูกชายนางติ่งโดยเร็วที่สุดอีกทั้งขอฝาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ช่วยเร่งรัดในคดีนี้ด้วยเนื่องจากจุดที่ถูกอุ้มไปที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก อยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค2
