มงคลสมัย 30 ปี วัดพระธรรมกายไทเป: ความสำเร็จแห่งหน้าที่พระธรรมทูต เพื่อสืบสานอายุพระพุทธศาสนา

0
10

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 พระครูสมุห์สนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า วัดพระธรรมกายไทเป, ไต้หวัน จัดกาลทานบารมี และมหาสังฆทานแห่งความสามัคคี ฉลอง 30 ปี ในพิธีถวายมหาสังฆทานคณะสงฆ์ 3 นิกายกว่า 100 รูป จาก 14 ประเทศ/เขต/ภูมิภาค และพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2568 เพื่อความก้าวหน้าบรรจุพันธกิจพระธรรมทูต 6 ด้าน งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทไปทั่วโลก (Kathina Ceremony to Celebrate 30 Years of Wat Phra Dhammakaya Taipei, Taiwan 庆祝法身寺建寺三十周年卡提那法会 台北,台湾 ) โดยมี พระครูปลัดรัตนวีรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเป็นประธานสงฆ์ โดยมี พระครูสิริศาสนวิเทศ (ธณัช เชฏฺฐธมฺโม法深法師) เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไทเป และคุณหรูฉีเวย ชาวไต้หวันโดยกำเนิด เป็นประธานเอก ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา

พิธีเริ่มในภาคสาย เป็นการกล่าวสุนทรพจน์แสดงความชื่นชมยินดี อนุโมทนา ในโอกาสฉลอง 30 ปี วัดพระธรรมกายไทเป จากพระมหาเถระผู้นำ และผู้แทนวัดและองค์กรพุทธ, พิธีถวายมหาสังฆทานแด่คณะสงฆ์สามนิกาย ทั้งเถรวาท มหายาน วัชรยาน ร่วมเจริญพุทธมนต์ และรับถวายมหาสังฆทานนานาชาติ กว่า 100 รูป ภาคบ่ายเป็นพิธีทอดกฐินสามัคคี โดยมีริ้วขบวนเจ้าภาพอัญเชิญผ้าจีวรกฐิน และผ้าไตรจีวร ปัจจัยไทยธรรม เป็นบริวารกฐิน เข้าสู่ศูนย์กลางพิธี จากนั้น ประธานสงฆ์เจริญสมาธิภาวนา และเจ้าภาพประกอบพิธีถวายผ้าไตรจีวรกฐิน โดยมีคณะสงฆ์ เจ้าภาพ สาธุชน ชาวพุทธ ทั้งชาวไต้หวัน และชาวไทย จากภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา ยุโรป ศรีลังกา อินโดนีเซีย บรูไน โอเชียเนีย จาก 14 ประเทศ/เขต/ภูมิภาค ร่วมงาน 500 กว่าคน

สัมพันธภาพแห่งพุทธธรรม 3 นิกาย : ทั้งนี้ พระมหาเถระคณะสงฆ์สามนิกาย ทั้งเถรวาท มหายาน วัชรยาน และองค์กรพุทธ ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ดังนี้ พระธรรมาจารย์ต้าฮุ่ย ประธานสมาคมพุทธศาสนาไถจง เจ้าอาวาสวัดกว่างซิว, พระธรรมาจารย์มี่เป่า ประธานมูลนิธิการศึกษาพุทธะ, พระธรรมาจารย์ฮุ่ยจวี้ เจ้าอาวาสวัดฝอกวงซาน สาขากั่งซาน, พระธรรมาจารย์เมี่ยวเหยี่ยน พระภิกษุนิกายเทียนไถ ประเทศญี่ปุ่น, พระธรรมาจารย์คันปู้ ฉืออวิ้ง เหรินเจิน ประธานสมาคมวิจัยพุทธศาสนาทิเบตนานาชาติในไต้หวัน, พระธรรมาจารย์นั่วนั่วเก๋อซี รองประธานสมาคมวิจัยพุทธศาสนาทิเบตนานาชาติในไต้หวัน, พระธรรมาจารย์หมิงเกา เจ้าอาวาสวัดใหญ่ศรีลังกา, พระมหาปรกฤษณ์ กนฺตสีโล เจ้าอาวาสวัดบุญญาราม ไต้หวัน, พระมหากฤติณภัทร กิตฺติภทฺโท รองเจ้าอาวาสวัดบุญญาราม ไต้หวัน, พระธรรมาจารย์ซิวอี้ เลขาธิการสมาคมพุทธศาสนาจีน เจ้าอาวาสวัดเมี่ยวเฉวียน, พระธรรมาจารย์ซิ่งหง รองเลขาธิการสมาคมพุทธศาสนาจีน เจ้าอาวาสวัดหยวนทงฉาน, พระธรรมาจารย์ไค่ซ่าน รองเลขาธิการสมาคมพุทธศาสนาจีน เจ้าอาวาสวัดฉือฝ่าฉาน, พระธรรมาจารย์หมิงอวี้ ประธานมูลนิธิการศึกษาต้าอ้ายเต้า, พระธรรมาจารย์ฝ่าจู๋ กรรมการสมาคมส่งเสริมการศึกษาคุณธรรมจงหัว, พระธรรมาจารย์หยั่งสิง เจ้าอาวาสวัดจินเฉิง, พระธรรมาจารย์โหย่อิ้ง รองเจ้าอาวาสวัดฉือฝาฉาน, พระธรรมาจารย์เจินอิ๋ง ผู้อำนวยการบริหารชมรมเยาวชนวัดเมียวฉวน, คุณเจิง ลี่ น่า รองประธานสมาคมดูแลครอบครัวและการสมรสจีน-ไต้หวัน, คุณหลิว จู่ หมิง ประธานสมาคมพันธมิตรพระศรีอาริย์เมตไตรย, คุณสวี่ อวิ๋น เสียง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สมาคมพันธมิตรพระศรีอาริย์เมตไตรย, และอาสาสมัครองค์กรพุทธฉือจี้ ฯลฯ

ความสัมฤทธิ์ผลแห่ง ศาสนกิจ 6 ประการ : ตลอดระยะเวลาในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านภาษาจีนและความรู้ทางพระพุทธศาสนา มหายาน วัดพระธรรมกายไทเป ได้บรรลุพันธกิจ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา เถรวาท และการทำหน้าที่พระธรรมทูต ดังนี้ (1) สร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีน, (2) เผยแผ่พุทธศาสนาเถรวาทให้ชาวท้องถิ่นไต้หวัน โดยเปิด 4 วัด ได้แก่ วัดพระธรรมกายไทเป, วัดภาวนาไถจง, วัดพระธรรมกายเถาหยวน, วัดภาวนาเกาสง, (3) ส่งบุคลากรภาษาจีนช่วยงานวัดพระธรรมกาย ประเทศไทย ทางด้านต้อนรับ อบรมสมาธิภาษาจีน บวชพระนานาชาติ ภาคภาษาจีน, (4) ส่งบุคลากรเผยแผ่นานาชาติ ในโซนที่ใช้ภาษาจีน ได้แก่ วัดพระธรรมกาย สิงคโปร์, วัดพระธรรมกายกัวลาลัมเปอร์ วัดพระธรรมกายฮ่องกง, (5) ส่งบุคลากรศึกษาต่อทางพระพุทธศาสนาในประเทศจีน, (6) สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับคณะสงฆ์และองค์กรพุทธนานาชาติ ซึ่งพันธกิจ ทั้ง 6 ประการ เพื่อมุ่งเน้นให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสฟังธรรม ปฏิบัติธรรม และเข้าถึงธรรม เพื่อให้เกิดสันติสุขภายในตน ได้รับประโยชน์จากการเข้าวัด ศึกษา และปฏิบัตินั้นเอง

สุนทรกถาแห่งความศรัทธาและสามัคคี : ด้าน พระจันทุเร ภคญาณนันทะ เถโร (Ven. Dr. Jandure Pagngnananda Thero) ผู้อำนวยการองค์กรพุทธสหายสหธรรมิก สาธารณรัฐจีน, ผู้ก่อตั้งและประธาน ศูนย์วัฒนธรรมสหายสหธรรมิก ประเทศศรีลังกา ได้อ่านสาส์นกล่าวอวยพร ความว่า “เมื่อราว 6 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมตลอด 40 พรรษา ต่อมา คณะสงฆ์ได้เผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระองค์ไปยังดินแดนต่าง ๆ โดยปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อเผยแผ่ และรักษาพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งประเทศอินเดีย ได้มีการสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 3 และส่งคณะธรรมทูตไปยัง 9 ประเทศ วันนี้อาตมาภาพขอพูดถึง 2 ประเทศในจำนวนนั้น ประเทศแรก คือ ตัมภปัณณี (Tambhapanni) หรือ ลังกา (Lankā) ซึ่งคือประเทศ ศรีลังกา ในปัจจุบัน อีกประเทศหนึ่งที่อยากกล่าวถึงเป็นพิเศษคือ สุวรรณภูมิ (Suwarnabhūmi) ซึ่งก็คือ ประเทศไทย ในประวัติศาสตร์จะเห็นได้ชัดว่า ทั้งสองประเทศนี้ต่างมีบทบาทสำคัญในการ คุ้มครองและสืบทอดพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท อย่างไรก็ตาม ปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในแต่ละยุค ก็เป็นสาเหตุให้พระพุทธศาสนาเสื่อมถอยลง เมื่อประมาณ 250 ปีก่อน ศรีลังกาเกิดปัญหาความไม่สงบภายในประเทศ และถูกชาวตะวันตกเข้าปกครอง ทำให้พระพุทธศาสนาในศรีลังกาอ่อนแอลง ต่อมา พระอุบาลีมหาเถระ แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ได้เดินทางไปศรีลังกา เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ปัจจุบัน พระพุทธศาสนาในศรีลังกาแบ่งออกเป็น 3 นิกาย ถึงแม้จะเป็นฝ่ายเถรวาทเหมือนกัน ในชีวิตประจำวันแทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง 3 นิกายนั้น หนึ่งในนั้นคือ สยามนิกาย (Siyam Nikāya) ซึ่งเป็นนิกายที่เกิดจากการฟื้นฟูของคณะสงฆ์ไทย ที่นำโดยพระอุบาลีมหาเถระนั่นเอง วันนี้อาตมาภาพมาร่วมงานในฐานะ พระภิกษุในสยามนิกาย จึงรู้สึกปลื้มปีติและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มากล่าวอวยพรในนามของคณะสงฆ์ศรีลังกา ในมุมมองของชาวพุทธศรีลังกาและชาวพุทธไทย วัดพระธรรมกาย ถือเป็น องค์กรพระพุทธศาสนาที่สำคัญมาก กิจกรรมของวัดพระธรรมกายมีคุณูปการต่อพระศาสนาอย่างยิ่ง หากพูดถึงพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ทุกคนย่อมรู้จักวัดพระธรรมกาย เพราะวัดพระธรรมกายได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ในการสืบทอดและเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังได้ขยายศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมไปยังหลายประเทศทั่วโลก วัดพระธรรมกายในไต้หวัน ภายใต้การนำของ พระครูสิริศาสนวิเทศ (ธณัช เชฏฺฐธมฺโม法深法師) ได้เผยแผ่ธรรมะ และจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง คณะสงฆ์จากศรีลังกาก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม และการประชุมของวัดพระธรรมกายเช่นกัน พระภิกษุหนุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา เมื่อได้มาร่วมกิจกรรมกับวัดพระธรรมกาย ต่างได้รับประสบการณ์และแรงบันดาลใจมากมาย ในยุคปัจจุบันนี้ วัดพระธรรมกายของประเทศไทย มีบทบาทสำคัญ และภารกิจรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ในการคุ้มครองและเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก

วันนี้ในวาระครบรอบ 30 ปี วัดพระธรรมกายไทเป อาตมาภาพรู้สึกเป็นเกียรติและปีติยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ขออำนวยพรให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ผนึกเรี่ยวแรง กำลังใจและความสามารถ ที่จะเผยแผ่ธรรมเพื่อความหลุดพ้นแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปทั่วโลก พร้อมทั้ง ธำรงรักษาแบบอย่างพระพุทธศาสนาของไทยไว้ให้มั่นคงสืบไป ขอให้ทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จ เปี่ยมด้วยปีติในธรรม มีความเพียรในการปฏิบัติธรรม และสมบูรณ์ถึงพร้อมด้วยบุญกุศลและปัญญา ขออนุโมทนา มา ณ โอกาสนี้”

ด้านท่าน คันโป เชวัง ริกซิน (Khenpo Tsewang Rigzin) ประธานสมาคมศึกษาพระพุทธศาสนาทิเบตนานาชาติ สาธารณรัฐจีน ได้กล่าวคำอวยพร ในโอกาสครบรอบ 30 ปี วัดพระธรรมกายไทเป ว่า “วันนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปี แห่งการก่อตั้งวัดพระธรรมกายไทเป อาตมาภาพขอแสดงความยินดีและอวยพรให้พิธีในวันนี้ เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นสิริมงคลและความสำเร็จบริบูรณ์ ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ เมื่อสองปีก่อน ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสไปเยือนวัดพระธรรมกายที่ประเทศไทย รวมถึงสาขาต่าง ๆ และได้เห็นด้วยตาตนเองว่า วัดพระธรรมกายได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างยิ่งยวด เพื่อการสืบสานและเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้ารู้สึกเคารพและชื่นชมจากใจจริง อย่างที่ทุกท่านทราบดีว่า โลกของเราในปัจจุบัน กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งปัญหาสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเปลี่ยนโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในยุคเช่นนี้ พวกเราท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะอยู่ในนิกายใด ล้วนเป็นเหมือนพี่น้องกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้อง ร่วมแรงรวมใจด้วยความสามัคคี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะสงฆ์ผู้ทรงศีล ควรเป็นแบบอย่างแห่งความสมัครสมานกลมเกลียว เพราะถ้าพระสงฆ์จากทั้ง 3 สายใหญ่ คือ เถรวาท มหายาน และวัชรยาน (ทิเบต) สามารถร่วมมือและอยู่ร่วมกันด้วยความกลมเกลียว เหล่าศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ก็ย่อมจะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบ และมีความสุขได้เช่นกัน สิ่งนี้จะเป็นแบบอย่างให้มนุษยชาติ เดินไปสู่หนทางแห่งสันติ และความกลมเกลียวในที่สุด ความสามัคคีของคณะสงฆ์นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ในรูปแบบภายนอกเท่านั้น แต่ต้องเกิดจากการตระหนักรู้ในใจว่า เราทั้งหลายล้วนเป็น ศิษย์ของพระศากยมุนีพุทธเจ้า และมีแนวทางปฏิบัติเดียวกัน คือ การดำรงรักษาพระวินัยและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ ด้วยความเข้าใจนี้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนิกายต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน หากมองในภาพรวมของพระพุทธศาสนาในยุคนี้ เราจะเห็นได้ว่า จำนวนพระภิกษุและพุทธศาสนิกชนลดลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชน นี่คือปัญหาที่เราทุกคนต้องตระหนักและร่วมกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้น ทั้งพระสงฆ์และคฤหัสถ์ ต่างควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการธำรงพระพุทธศาสนา รวมพลังของชาวพุทธให้มั่นคง และร่วมกันนำทางเยาวชน ให้ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งพุทธธรรม ในวันนี้ ข้าพเจ้าขอถือโอกาส เชิญชวนทุกท่าน ให้ร่วมกันตระหนักถึงภารกิจอันสำคัญนี้”

ความสำเร็จของวัดพระธรรมกายไทเปในวาระครบ 30 ปีนี้ มิใช่เพียงความสำเร็จด้านถาวรวัตถุ แต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจจริงในการสานต่องานพระศาสนา ดังพุทธพจน์ที่พระบรมศาสดาได้ทรงประทานไว้แก่พระอรหันต์ 60 รูปแรก เพื่อส่งไปประกาศพระศาสนาว่า: “จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ…” (ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงจาริกไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดนนั้น ต้องอาศัยทั้ง “ขันติธรรม” (ความอดทน) และ “สามัคคีธรรม” (ความพร้อมเพรียง) ดังที่ปรากฏในงานนี้ ที่รวมสงฆ์จาก 3 นิกายไว้ด้วยกัน การทำหน้าที่กัลยาณมิตรชี้ทางสว่างให้เพื่อนมนุษย์ เป็นยอดแห่งมหากุศลที่ยังประโยชน์ให้กว้างไกล เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว และสร้างสันติภาพที่แท้จริงให้บังเกิดแก่โลกสืบไป.