เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 68 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เข้าร้อง “ปวีณา หงสกุล ประธานมลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ว่าลูกชายวัย 18 ปี เป็นออทิสติก ถูกนายบี อายุ 47 ปี พ่อเลี้ยง เป็นพระเอกลิเก เมาสุราใช้ค้อนทุบเนื้อ ทุบศีรษะแตก เลือดคั่งในสมอง ตามร่างกายมีรอยพกช้ำหลายแห่ง จนเสียชีวิต วันที่ 27 พ.ค. 68 แพทย์ระบุ มีบาดเจ็บจากอวัยวะภายในของศรีษะและทรวงอกอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุ พ่อเลี้ยง ได้หลบหนีไป วอนขอให้ ปวีณา ช่วยติดตามคดีและช่วยเหลือครอบครัวยากจน ไม่มีเงินจัดงานศพให้ลูกชายที่จากไปอย่างกะทันหัน ช้ำล่าสุดพ่อเลี้ยง ยังล่วงละเมิดทางเพศกับลูกสาววัย 11 ปี ซึ่งได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขอให้ ปวีณา ช่วยติดตามคดี และเร่งติดตามตัว พ่อเลี้ยง โหดรายนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
น.ส.หมิว เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับนายบี พ่อเลี้ยง มาได้ประมาณ 2 ปี โดยแม่และนายบี มีอาชีพเล่นลิเกอยู่ในคณะลิเกแห่งหนึ่งด้วยกัน พื้นเพ นายบี เป็นคน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ แต่ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหนเพราะไม่เคยไป ที่ผ่านมา ตนเองกับนายบี อาศัยอยู่บ้านเช่ากับลูกติดของแม่ทั้งสองคนใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงเดือน เม.ย.68 ที่ผ่านมา หลังตนไปขายของที่ตลาดนัดกลับมาบ้านเห็นลูกสาวร้องไห้และบอกว่า นายบี พ่อเลี้ยง ล่วงละเมิดทางเพศ โดยการจับที่อวัยวะเพศใช้มือล้วงเข้าไปให้อวัยวะเพศตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนถึง อายุ 9 ขวบ ขู่ห้ามบอกใคร จะฆ่ายกครัว ลูกสาวกลัวมากเก็บเรื่องไว้จนอายุ 11 ขวบ กลัวว่าจะถูก พ่อเลี้ยง มากระทำอีก จึงตัดสินใจแอบบอกแม่ หลังแม่รู้เรื่องได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความทันที แต่ยังไม่ทันเสร็จเรื่อง
ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.68 ที่ผ่านมา จู่ๆ ลูกชายคนโต ซึ่งเป็นเด็กออทิสติก มีอาการผิดปกติ เมื่อตนเองตื่นมากลางดึกตอนตี 3 พบว่าลูกชายนอนขวางตู้เย็น จึงได้เรียกให้ลูกลุกแม่จะเปิดตู้เย็นกินน้ำ แล้วลูกชายบอกว่าเจ็บแล้วเอามือจับที่ศีรษะ เมื่อเปิดไฟดูพบมีเลือดออกที่ศรีษะและศรีษะแตกเป็นแผลยาว จึงพยายามสอบถามว่า เกิดอะไรขึ้น แต่ลูกชายพูดจาไม่รู้เรื่อง บอกได้เพียงว่า แม่เจ็บ แม่เจ็บ ตอนนั้นแม่หันไปพบค้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ที่พื้นใกล้ที่ลูกชายนอนอยู่ แม่จึงปักใจว่าลูกชายต้องถูก พ่อเลี้ยง ทำร้ายร่างกายโดยการใช้ค้อนทุบเนื้อตีที่ศรีษะ เพราะช่วงหัวค่ำของวันที่ 23 พ.ค. 68 แม่กลับมาจากขายของ ลูกสาววัย 11 ปี ได้เล่าให้แม่ฟังว่า พ่อเลี้ยง ได้ใช้ค้อนทุบเนื้อดังกล่าวนี้ถือมาขู่ลูกชาย จากนั้นแม่จึงได้โทรศัพท์ไปถาม พ่อเลี้ยง อ้างว่าไม่ได้ทำอะไรแค่เล่นเฉย ๆ ช่วงสายของวันที่ 24 พ.ค. 68 ขณะที่ตนพาลูกไปขายของด้วย สังเกตเห็นลูกชายอาการผิดปกติ ตัวซีด หน้าเหลือง แต่ยังมีการตอบโต้แม่ได้ แม่ค้าในตลาดจึงโทรศัพท์แจ้ง 1169 มารับตัวส่ง รพ.แห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ทันที หมอแจ้งว่า ผลเอกซเรย์ พบว่าปอดด้านขวาฉีก ซึ่งจะต้องทำการเจาะใต้ชายโครงข้างขวาเพื่อดูดระบายลมในปอดออก ระหว่างหมอทำการรักษา ลูกชาย ช็อคหมดสติไปประมาณ 15 นาที ทำการปั๊มหัวใจกลับมาได้ และหมอแจ้งว่าจะต้องทำการส่งต่อน้องไปยัง รพ.ที่ 2 ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด่วน หมอได้ทำการตรวจ CPR พบว่ามีเลือดออกในสมอง จากนั้นน้องก็ไม่มีอาการตอบสนองอีกเลย จนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 หลังเกิดเหตุพ่อเลี้ยงได้หลบหนีไป ซึ่งแม่ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองนครราชสีมา แล้ว แต่ทางครอบครัวยากจน และไม่มีเงินจากงานศพลูกชายที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน จึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย ช่วยทำความจริงให้ปรากฎและดำเนินคดีกับคนที่กระทำกับลูกชายออทิสติกจนเสียชีวิตและล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวคนเล็กของตนให้ถึงที่สุด”
หลังรับแจ้งเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ทราบว่า ขณะนี้ตำรวจได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดขอหมายจับ พ่อเลี้ยง คาดว่าจะติดตามตัว พ่อเลี้ยง โหดรายนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเร็วๆนี้ นอกจากนี้นางปวีณา จะประสาน กระทรวงยุติธรรม พาแม่ผู้ตาย เข้ายื่นขอรับเงินเยียวยา และประสาน พม.จ.นครราชสีมา เข้าช่วยเหลือครอบครัว โดยมูลนิธิปวีณาฯจะติดตามความคืบหน้าร่วมกับตำรวจและ พม.อย่างใกล้ชิดต่อไป.
