“ปวีณา”ประธานพิธีเผาศพสาวไทยเสียชีวิตปริศนาที่ดูไบ-ท่ามกลางความเสียใจของญาติ

“ปวีณา” เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพสาวไทยที่ถูกหลอกไปทำงานนวดที่เมืองดูไบ 3 วันเสียชีวิต แม่เผย วันนี้ไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว อยากให้ลูกไปสู่สุคติ ที่ผ่านมาลูกเป็นเสาหลักครอบครัว กตัญญูดูแลแม่อย่างดี ขอบคุณ ปวีณา อธิบดีกรมการกงสุล คนไทยในดูไบ ช่วยนำศพลูกกลับมาบ้านเกิดแม้ไร้ลมหายใจก็ดีที่สุดแล้ว

วันที่ 20 ส.ค.66 เวลา 15.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพสาวไทย อายุ 49 ปี ที่ถูกหลอกไปทำงานนวดที่เมืองดูไบ 3 วันเสียชีวิตจากการตกจากที่สูง ที่วัดเขายายเที่ยงใต้ หมู่บ้านเขายายเที่ยงใต้ หมู่ 10 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมีเจ้าอาวาสวัดเขายายเที่ยงเหนือ และเจ้าอาวาสวัดเขายายเที่ยงใต้ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระสงฆ์สวดทำพิธี 12 รูป บรรยากาศในงานมีญาติเดินทางมาจากหลายจังหวัดนับร้อยคนมาร่วมแสดงความเสียใจและส่งศพผู้เสียชีวิตไปสู่สุคติ ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา

แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวเป็นคนที่ 7 จากลูกทั้งหมด 9 คน ก่อนหน้านี้ลูกไปทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี และมาบอกแม่ว่าจะไปทำงานที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วงวันที่ 3 ต.ค.2565 ก็ไม่ทราบว่าไปกับใครกลุ่มไหน จากนั้นมาก็ขาดการติดต่อ จนเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามหานามสกุลถึงรู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตจากการตกตึกสูงโดยไร้ญาติ วันที่ 6 ต.ค.65 จากนั้นวันที่ 27 ก.ค.66 ญาติๆ จึงได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนางปวีณา ในการช่วยหาสาเหตุการเสียชีวิต และรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

หลังสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ออกใบมรณบัตรระบุสาเหตุการตายของลูกสาวว่า ตกจากที่สูงและได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว ที่ผ่านมาลูกเป็นเสาหลักครอบครัวดูแลแม่อย่างดี เป็นลูกกตัญญู และวันนี้แม่จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว กลัวลูกจะไม่สงบ อยากให้ลูกไปสู่สุคติ เงินที่ทุกคนร่วมทำบุญมาในงานแม่ก็จะมอบให้กับวัดและโรงเรียนในหมู่บ้านเพื่อเป็นการทำบุญให้ลูก ขอขอบคุณนางปวีณา ที่ประสานการช่วยเหลือกับ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และขอบคุณคนไทยที่ดูไบที่ช่วยรวบรวบเงินจ่ายค่าดำเนินการส่งศพกว่า 2 แสนบาท ทำให้ลูกสาวได้กลับมาบ้านเกิดถึงแม้จะไม่มีลมหายใจก็ตาม ซึ่งแม่และญาติพี่น้องทุกคนและคนในหมู่บ้านรู้สึกซาบซึ้งใจในมูลนิธิปวีณาฯ ที่ให้การช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนถึงวันสุดท้ายและจะไม่มีวันลืม ขอมูลนิธิปวีณาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชนตลอดไป.