ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,พล.ต.ท.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สส.บก.ตม.1,พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้ ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3, สภ.เมืองสมุทรสาคร,เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร จับกุมนางยู(สงวนนามสกุล)อายุ 30 ปี สัญชาติจีน กล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้,รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน,มีไว้เพื่อขายซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และช่วยซ่อนเร้นรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และจับกุมนายหวัง (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี,นายซู (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี,นายเหลียง (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปีและนายกวน (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน กล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม โกดังตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่โกดังแห่งหนึ่ง ต.ท่าทราย อ.เมือง จว.สมุทรสาคร มีคนต่างด้าวสัญชาติจีนลักลอบทำงานขายสินค้าประเภทเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจสอบพบคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 5 คน กำลังนั่งทำงาน แพ็คของยกของ เรียงสินค้า อยู่ภายในโกดัง โดยมี นางยู (สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลโกดัง และพบว่าโกดังดังกล่าวจัดเก็บและกระจายสินค้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขที่จดแจ้ง และไม่แสดงฉลากภาษาไทย จึงได้ตรวจยึดและอายัดของกลางรวม 8 รายการ จำนวน 6,000 ชิ้น มูลค่า 3,739,300 บาท โดยเป็นเครื่องสำอางต้องสงสัยว่าเป็นเครื่องสำอางปลอมและเป็นเครื่องสำอางไม่มีเลขที่ใบรับจดแจ้ง และเครื่องสำอางไม่แสดงฉลากภาษาไทย จำนวน 8 รายการ ดังนี้ 1.เครื่องสำอาง Cetaphil Cleanser 400 ชิ้น 2.เครื่องสำอาง Cetaphil Moisture 550 ชิ้น 3.เครื่องสำอาง CeraVe Lotion 3,000 ชิ้น 4.เครื่องสำอาง CeraVe Cleanser 1,000 ชิ้น 5.เครื่องสำอาง CeraVe Serum 300 ชิ้น 6.เครื่องสำอาง Biore UV 400 ชิ้น 7.เครื่องสำอาง Rtopr cream 200 ชิ้น 8.เครื่องสำอาง Dermatrix Ultra Gel 150 ชิ้น โกดังเก็บสินค้าดังกล่าวมีการบริหารจัดการในลักษณะ“เก็บ แพ็ค ส่ง” หรือ Fulfillment โดยเป็นโกดังกระจายสินค้าโดยกลุ่มนายทุนชาวจีนเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อใช้โฆษณาสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อกระจายการโฆษณา จากนั้นจะส่งออเดอร์–ที่อยู่การจัดส่งผ่านระบบโปรแกรมบริหารคลังสินค้าแล้วให้พนักงานทำการแพ็คบรรจุและส่งให้กับลูกค้าชาวไทย โดยมียอดการส่งสินค้ากว่า 1,000 ชิ้น/วัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมคนต่างด้าวทั้ง 5 ราย ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
2.กก.สส.บก.ตม.1 จับกุม นายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สัญชาติไทย โดยกล่าวหาว่า ปลอมเอกสารราชการ และโดยรู้อยู่แล้วว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุม จับกุมนายออฟ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี สัญชาติไทย โดยกล่าวหาว่า โดยรู้อยู่แล้วว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามา โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุม จับกุมนายนาย (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา กับพวกรวม 5 คน โดยกล่าวหาว่า ใช้เอกสารราชการปลอม และเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญ 4.จับกุมนายเนียง (นามสมมติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา กับพวกรวม 3 คน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.จับกุมนายอ่อง (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุมบริษัทตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 8 แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบภายในที่ทำการสำนักงานพบเอกสารทะเบียนใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว อยู่โต๊ะทำงานของนายเก่งจำนวน 58 ชุด พบว่าข้อมูลอัตลักษณ์ไม่ตรงกับข้อมูลในเอกสาร จึงได้ทำการตรวจยึดเอกสารดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบคอมพิวเตอร์ในสำนักงานพบว่ามีไฟล์เอกสารเกี่ยวการทำงานของต่างด้าวอยู่ในเครื่องมีการใช้โปรแกรมแก้ไขข้อมูลอัตลักษณ์ให้กับคนต่างด้าวที่ประสงค์จะมีเอกสารดังกล่าวไว้ใช้เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่และมีการส่งข้อมูลไฟล์เอกสารที่ได้ทำการแก้ไขแล้วให้กับลูกค้าทางแอปพลิเคชันไลน์ จึงได้ทำการตรวจยึดหลักฐานและเอกสารประกอบการจับกุมทั้งหมดไว้ดำเนินคดี
รายที่ 3. กก.4 บก.สส.สตม. จับกุม นายโมฮัมเหม็ด (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติมัลดีฟส์, นายอาชแซม (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สัญชาติมัลดีฟส์ และนายอับดุลลา อายุ 19 ปี สัญชาติมัลดีฟส์ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมย่าน ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ทั้ง 3 คนเข้าพักที่คอนโดมิเนียมย่าน แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ มีพฤติการณ์ต้องสงสัย จึงแสดงตนขอตรวจสอบหนังสือเดินทางทราบชื่อว่า นายโมฮัมเหม็ด แต่ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ และได้นำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขึ้นไปยังห้องพักพบนายอาชแซม และนายอับดุลลา อยู่ภายในห้องพักจึงตรวจสอบหนังสือเดินทางพบคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงแล้วจึงจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีตามกฎหมาย พบว่าทั้งสามมีประวัติกระทำความผิดในประเทศมัลดีฟส์ ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยสิ่งแหลมคม และข่มขู่ผู้อื่นด้วยสิ่งแหลมคมโดยร่วมกันใช้อาวุธแทงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในกลุ่มเครือข่าย East Coast Gang อาชญากรรมท้องถิ่นของ มัลดิฟส์ ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่ใช้ความรุนแรง และเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด และเป็นบุคคลที่องค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL RED NOTICE)