ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง เปิดใจการย้ายเข้าพรรค พรปช.พร้อมสู่ศึกเลือกตั้งใหญ่

0
503

 เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่มุมร่มรื่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี  ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5  ได้ประกาศจัดเตรียมลงสมัครสู้ศึกเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมาช่วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ลงชิงชัย นายก อบจ.ปทุมธานี แล้วได้รับชัยชนะและได้ไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ในระยะเวลา 1 ปี ได้ลงพื้นที่ปทุมธานี เดินหาคะแนนในนามพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด แต่ก็ต้องมาถึงทางแยกโดดไปร่วมวงกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เกิดความสับสนสงสัยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 โดยเรื่องนี้ ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5 เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่กกต.มีการกำหนดให้เป็นช่วงของการหาเสียง อันดันแรกของการลงสมัครรับเลือกตั้ง เราเองต้องมีสังกัดพรรคการเมือง ก็คือต้องมีพรรคการเมือง ว่าเราจะลงสมัครพรรคการเมืองพรรคไหน ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่าน มาทางพรรค พรปช ได้เชิญให้เข้าไปพบเพื่อที่สรุปตกลงคัดสรรค์ เกี่ยวกับบุคคลที่จะลงสมัคร สส. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี  โดยเฉพาะพื้นที่ คูคต ลาดสวาย อ.ลำลูกกา ตนเองรู้สึกดีใจที่ตนเองได้รับเลือกเพื่อเข้าทำงานกับพรรคใหญ่อีกพรรคหนึ่ง ก็เลยได้ร่วมเดินทางเข้าไปประชุมกับพรรค ซึ่งได้รับให้ลงเลือกตั้ง ในพื้นที่ตำบล คูคต ตำบล ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อีกคนหนึ่ง

 และในวันนี้ตนเองอยากมาทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากว่า ตนเองได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือนายกแจ๊ส ได้มาสมัครชิง นายก อบจ.ปทุมธานี จึงได้ให้ผมมาช่วยหาเสียง จนได้รับชัยชนะ ก่อนที่จะเชิญชวนให้เข้ามาเป็นคณะทำงาน เป็นที่ปรึกษาพิเศษ​ จึงได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อที่ให้พรรคสรรหาตัวบุคคล ที่จะให้มาเป็นตัวแทนในการลงแข่งเลือกตั้งเช่นกัน จึงได้เดินทางเข้าร่วมกับทีมนายกคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

 ดร.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า แต่มาวันนี้กลับกลายเป็นว่า ตนเองไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนเองได้คุยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ นายกแจ๊ส เป็นอย่างดีแล้ว ว่าการที่จะเข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจน และตัวผมเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกับทางผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ถึงเรื่องความชัดเจนเลย แต่ผมได้มีโอกาศเดินทางไปขอขมาลาโทษ ในเรื่องที่เคยอภิปราย โจมตี กับท่านทักษิณ ชินวัตร ท่านก็ให้ความเมตตา ซึ่งหลังจากนั้นตนเองก็คอยมาตลอดว่าทางพรรคเพื่อไทย จะเรียกตนเองเข้าไปพบหรือพูดคุย ถึงข้อสรุปต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อเลย ซึ่งเรื่องของการเมืองเราก็ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก เพราะวันเวลามันมาถึงช่วงระยะเวลาประกาศให้เริ่มหาเสียงแล้ว ซึ่งเราเป็นนักการเมือง เราต้องมีสังกัด แล้ววันนั้นทางพรรคพลังประชารัฐ ได้เชิญชวนเข้ามา ตนเองจึงเดินทางไป พร้อมที่จะอาสาลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ

 ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง กล่าวอีก ซึ่งความน้อยใจนั้นตนเองก็มีบ้าง แต่วิธีทางการเมือง ผมนำเรียนเลยว่าผมอยากรับใช้พี่น้องประชาชน ผมก็อยากพิสูจน์ ว่าผมเองเป็นคนตั้งใจทำงานเป็นคนขยัน และเป็นคนที่รู้พื้นที่ และปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี ฉะนั้นขอให้มีพรรคการเมือง หรือต้นสังกัดที่มั่นคงแข็งแรง ก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย และอยากขอบคุณทุกคนทุกฝ่าย ที่ให้เกียรติเรา ส่วนท่านที่ไม่เห็นค่า หรือ ไม่ให้เกียรติเรา ก็สุดแท้แล้วแต่ท่าน ผมก็ขอเดินทางเพื่อที่จะรับใช้พี่น้องประชาชน ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ประชาชนทั่วไปรู่ว่าตัวผมเองเดินหาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยผมก็อยากบอกว่าพี่น้องประชาชนสับสนผมจึงได้มีวันนี้ขึ้นมาได้ เพราะวันนี้จะได้เปิดใจกับพี่น้องประชาชนว่าที่เดินทางมาพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งออกจากบ้านเก่ามาแล้วไม่เหลียวหลังกลับไปบ้านหลังนั้นเลย เพราะบ้านหนังนั้นเคยให้ความอบอุ่น เคยให้ความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องการเมืองมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็รู้สึกขอบคุณบ้านหลังนั้น แต่ก็ต้องออกมาเพื่อทำงานกับ อบจ.ปทุมธานี แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงทางสามแพร่ง เดินทางหน้าต่อไปไม่ได้ เราเลือกที่จะเดินทางไปทางขวา แต่ก็ยังไม่ได้มีการตอบรับ ยังไม่ได้มีการพูดคุย ซึ่งผิดวิสัยอย่างที่ผมบอกกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่น้อย แต่อีกบ้านหนึ่งที่อยู่ทางซ้ายมือ ให้เกียรติมาต้อนรับ ตนเองก็กลัวว่าจะตกขบวน กลัวไม่ได้รับใช้พี่น้องประชาชน จึงได้ตัดสินใจลงสมัครไปในครั้งนี้ ในนามพรรค พลังประชารัฐ ก็อยากชี้แจงกับพี่น้องประชาชนว่า การลงสมัครนั้นต้องมีสังกัด ต้องมีพรรค แล้วพรรคที่จะทำให้ความตั้งใจของเราสำเร็จนั้น ก็ต้องเป็นพรรคใหญ่ ซึ่งพรรคที่เราอยากไปก็คือพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่รู้ว่าทางที่เราจะไปแล้วจะเจอหลุม เจอบ่อ หรือมีคนร้ายข้างทางซุ่มโจมตีเราหรือป่าว  แต่อีกฝั่งคือพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดบ้านรอรับ มีแสงไฟส่องสว่างไสว มองเห็นบ้านที่เราจะเข้าไปอยู่ จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังนั้น ก็อยากอธิบายให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ว่าตนเองต้องมีบ้านอยู่อาศัย ก็เลยอยากขอความเมตตา ขอความเห็นใจ และขอโทษพี่น้องประชาชนที่  1 ปีที่ผ่านมาผมเดินในนามคนรักปทุม ก็เป็นคนปทุม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพี่น้องชาวเสื้อแดง พี่น้องพรรคเพื่อไทยนั้นเอง แต่ที่ผ่านมาผมก็อยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ผมก็ไม่ได้เลือก เพราะไม่ว่าจะเป็นพี่น้องเสื้อแดง พี่น้องเสื้อเหลือง หรือเสื้ออะไรทั้งหลาย ผมก็เข้าถึง และเห็นผมอยู่ในสายตามาโดยตลอด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากไม่พอใจก็ขอให้ท่านสงสาร อย่าได้ขว้างปา หรือท่านจะสนับสนุน การเลือกตั้งในครั้งนี้ก็มีทางออก เพราะว่าการเลือกตั้งมีการเลือกบัตร 2 ใบ ซึ่งการเลือกตั้งก็สุดแล้วแต่พี่น้องประชาชน ชอบพรรคไหนก็กากพรรคนั้นไปได้เหมือนเดิม ผมก็จะบอกว่าเลือกคนทำงานไปเป็น สส. เลือกพรรคที่ชอบพอไปจัดตั้งรัฐบาลครับ